แบ่งพื้นที่ทำนา มาปลูก “ผักบุ้งแก้ว” 2 ไร่ เก็บขายได้วันละพันการปลูกผักบุ้ง จำหน่ายเป็นอาชีพหนึ่งที่น่าสนใจ ตลาดมีความต้องการสูง ใช้เวลาปลูกสั้น เพียง 3 สัปดาห์ ก็สามารถเริ่มเก็บขายได้...


ลงวันที่ 2015-10-07 ดูแล้ว 16,017 ครั้ง

แบ่งพื้นที่ทำนา มาปลูก “ผักบุ้งแก้ว” 2 ไร่ เก็บขายได้วันละพัน
การปลูกผักบุ้ง จำหน่ายเป็นอาชีพหนึ่งที่น่าสนใจ ตลาดมีความต้องการสูง ใช้เวลาปลูกสั้น เพียง 3 สัปดาห์ ก็สามารถเริ่มเก็บขายได้ และเก็บเกี่ยวได้ยาวนานนับปี คุณเสาร์ ลั่นจะ เกษตรกรผู้ปลูกผักบุ้งแก้วหรือผักบุ้งไทย เล่าให้ฟังว่า การปลูกผักบุ้งแก้วนั้นมีวิธีการเตรียมดินเช่นเดียวกับการดำนา กล่าวคือไถดะ ไถแปร และไถคราด เป็นขั้นตอนตามลำดับ เมื่อได้ดินพร้อมแก่การปักดำแล้ว ให้คัดเลือกยอดผักบุ้งโดยเลือกเฉพาะยอดที่ทอดยอดห่างและมีลำยอดเป็นสีขาว ส่วนการปลูกใช้วิธีเดียวกับการปักดำต้นข้าว โดยให้ความห่างระหว่างกอประมาณ 3 เมตร ในระยะเริ่มต้นควรควบคุมหอยเชอร์รี่ด้วยการปล่อยน้ำออกให้มีน้ำอยู่ในแปลงนาเพียงแค่ระดับเฉอะแฉะ เมื่อผักบุ้งมีอายุประมาณ 7 วัน เริ่มให้ปุ๋ยสูตร 16-8-8 หรือ 18-8-8 เพื่อเร่งการเจริญเติบโต ในสัปดาห์ที่ 2 ให้หว่านปุ๋ยคอกไร่ละ 5-6 กระสอบให้ทั่วแปลงปลูก จากนั้นวันถัดมาให้ปล่อยน้ำเข้าแปลงปลูก ให้ระดับน้ำอยู่ประมาณหน้าแข้งเพื่อให้ผักบุ้งเริ่มทอดยอด ประมาณสัปดาห์ที่ 3 ก็สามารถเด็ดยอดจำหน่ายได้
และไม่ควรใส่ปุ๋ยยูเรียเพราะจะทำให้ลำยอดของผักบุ้งเป็นสีเขียวเข้ม ไม่เป็นที่ต้องการของตลาด ส่วนเทคนิคสำคัญที่จะทำให้ผักบุ้งมีลำต้นขาวอวบและทอดยาวนั้น จะใช้ปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพที่ทำขึ้นเองสาดในแปลงปลูกทุกอาทิตย์ ซึ่งปุ๋ยชีวภาดังกล่าว นอกจากจะทำให้ได้ผักบุ้งที่มีลำยอดสมบูรณ์ อวบ เขียวนวล และใหญ่แล้ว ยังช่วยสร้างแพลนตอนในน้ำและไม่ทำให้น้ำในแปลงเน่าเสียอีกด้วย
วิธีการทำปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพ คุณเสาร์จะทำไว้ 2 สูตรคือ ปุ๋ยหมักชีวภาพที่หมักจากเศษผัก โดยใช้ เศษผักที่เหลือทิ้ง กากน้ำตาล, น้ำ และจุลินทรีย์อีเอ็ม หมักรวมกันทิ้งไว้ประมาณ 2 สัปดาห์ และอีกสูตรคือปุ๋ยน้ำหมักหัวปลา ได้จากการหมักเศษปลา ร่วมกับการน้ำตาล, น้ำ และ จุลินทรีย์อีเอ็ม หมักทิ้งไว้ประมาณ 1 เดือน วิธีการใช้ ให้นำปุ๋ยชีวภาพผสมกับน้ำในอัตรา 1:3 กล่าวคือ ปุ๋ยน้ำชีวภาพ 1 ส่วน และน้ำ 3 ส่วน ผสมให้เข้ากัน จากนั้นนำไปสาดให้ทั่วแปลงปลูก โดยเน้นบริเวณกอผักบุ้ง แนะนำให้สาดทุกอาทิตย์สลับกับการให้ปุ๋ยเคมี หรือปุ๋ยคอก ผักบุ้งแก้วมีศัตรูสำคัญคือหนอน อย่างไรก็ตามการจะทำนาผักบุ้งให้ได้ผลผลิตดีนั้น เกษตรกรจำเป็นจะต้องมีพื้นที่อยู่ใกล้แหล่งน้ำ เพราะผักบุ้งแก้วเป็นพืชที่ใช้น้ำหล่อเลี้ยงตลอดเวลา ถึงจะทอดยอดได้สวยงามเป็นที่ต้องการของตลาด ทั้งนี้ ผักบุ้งจะให้ผลผลิตน้อยในช่วงฤดูหนาว กล่าวคือหากลมหนาวมาเยือนคราใด ผักบุ้งก็จะไม่ค่อยทอดยอด ซึ่งในช่วงฤดูดังกล่าวคุณเสาร์จะทำการพักแปลงและตากดินตั้งแต่ กลางเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงสิ้นเดือนธันวาคม หลังจากนั้นจึงเริ่มเตรียมแปลงปลูกใหม่อีกครั้ง
สำหรับเกษตรกรที่สนใจเรียนรู้เทคนิคการปลูกผักบุ้งแก้ว หรือผักบุ้งไทย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณเสาร์ ลั่นจะ เลขที่ 66 หมู่ที่ 3 บ้านรุ่งพัฒนา ต. ธาตุนาเวง อ.เมือง จ.สกลนคร โทร. 08-5608-5639
ขอขอบคุณที่มา เกษตรกรก้าวหน้า
https://www.facebook.com/agriculturemag/posts/833969369973991?notif_t=notify_me



ติดต่อหน่วยงาน

Contact Us

สำนักพัฒนาการเรียนรู้ตลอดชีวิต มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน
เลขที่ 50 อาคารวิทยบริการ ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 
โทรศัพท์ : 02 942 8820 - 9 ภายใน มก.611336-9 
โทรสาร : 02 942 8820 - 9 ต่อ 111
ติดต่อผู้ดูแลระบบ : etoku@ku.ac.th
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
นโยบายคุกกี้